Main Menu

Recent posts

#1

ตั้งแต่โลกถือกำเนิดกีฬาฟุตบอลขึ้นมา มีอยู่หลายนัดหลายแมตย์ด้วยกันที่คนทั้งโลกยกให้ว่ามันคือแมตย์ที่ไม่มีทางลืมลง ไม่ว่าจะเป็นความสนุกสุดมันส์ ความดุเดือดระหว่างทั้ง 2 ทีม หรือจะเป็นผลการแข่งขันที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ แล้วในบทความนี้ได้รวบรวมเอา 5 แมตย์สุดยอดสุดช็อคมาฝากกัน ที่ขอบอกได้เลยว่าแต่ละเกมไม่มีทางลืมลงแน่นอน

5 แมตย์ฟุตบอลสุดช็อคที่ลืมไม่ลง

1.   ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนยู ราบคาบไม่มีชิ้นดี 7-0
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าศึกแดงเดือดระหว่าง 2 ทีมคู่ปรับตลอดกาล ที่มีแฟนๆมากที่สุดในโลก จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น มันคือผลต่างสกอร์ที่ไม่มีใครเชื่อสายตาว่าคือความจริง โดยแมตย์นี้เกิดขึ้นวันที่ 5 มีนาคม 2023 ไม่นานมานี้ ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ลิเวอร์พูลไล่ต้อนแมนยูราบคาบ 7-0 กลายเป็นสกอร์สุดช็อค ที่แฟนบอลไม่มีทางลืมลงแน่นอน

2.   อาเจนติน่าชนะจุดโทษฝรั่งเศส คว้าแชมป์บอลโลก 2022
นี่คือนัดชิงฟุตบอลโลกที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นการขับเคี่ยวกันของ 2 สุดยอดทีมแห่งยุค ซึ่งตลอด 90 นาทีมีเหตุการณ์พลิกผันมากมาย มีโอกาสจะชนะหรือแพ้ด้วยกันตลอดเวลา เล่นเอาแฟนบอลทั่วโลกหายใจไม่ทั่วท้อง ก่อนจะต้องไปตัดสินกันถึงการดวลจุดโทษ ก่อนที่ทัพฟ้าขาวจะแม่นกว่า คว้าแชมป์ไปอย่างสุดยิ่งใหญ่

3.   บาร์เซโลน่า โดน บาเยิร์น มิวนิค ยิงไม่เลี้ยง 2-8
ศึกนี้คือศึกที่แฟนบอลไม่มีทางลืม โดยเป็นการเจอกันของ 2 สุดยอดทีม และไม่น่าเชื่อว่าผลสกอร์จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ที่ยับเยินที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ บาร์เซโลน่า เมื่อปราชัยต่อ บาเยิร์น ไปแบบสู้ไม่ได้ 2-8 กลายเป็นแมตย์แห่งความทรงจำสุดช็อคอีกนัด

4.   บราซิล แพ้คาบ้านต่อ เยอรมนี 1-7 ในฟุตบอลโลก 2014
ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ โดยบราซิลหมายมั่นปั้นมือมากๆว่าจะกลับมาครองแชมป์โลกอีกครั้งให้จงได้ แต่ทว่าเหตุการณ์ที่แฟนบอลของทีมและแฟนบอลทั่วโลกไม่คิดว่าจะได้เห็นเกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศ เมื่อบราซิลปราชัยต่อ เยอรมันนี แบบไร้ทางสู้ 1-7 เป็นสกอร์สุดช็อคอย่างไม่เชื่อสายตา

5.   สุดยอดที่สุดในศึกเอล กลาซิโก้ เรอัล มาดริด VS บาร์เซโลน่า ปี 2017
นัดนี้ถูกยกให้เป็นเกมที่ดีที่สุดตลอดกาลของศึกเอล กลาซิโก้จากหลายๆสำนัก เพราะเป็นเกมที่ เรอัล มาดริด ห้ำหั่นกับ บาร์เซโลน่า ได้อย่างดุเดือดเผ็ดมันส์ตลอดทั้งเกม ผลัดกันรุกรับอย่างชนิดที่แฟนบอลแทบจะหยุดหายใจ ก่อนที่ท้ายสุดจะเป็น บาร์เซโลน่า ชนะ 3-2 แต่นี่คือเกมฟุตบอลอีกนัดที่แฟนๆลืมไม่ลง
#2


   ลิเวอร์พูล คือทีมที่มียอดดาวยิงมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สร้างประตูสุดสวยให้แฟนๆได้ชื่นชมมานับไม่ถ้วน จนหลายคนขึ้นเป็นขวัญใจแฟนบอลตลอดกาลไปเลยก็มีไม่น้อย แล้วในบทความนี้จะมาเจาะลึกให้รู้ถึง 5 อันดับแรกของนักเตะหงส์แดง ที่ทำประตูได้เยอะที่สุดนับเฉพาะ 100 นัดแรกของศึกพรีเมียร์ลีกเท่านั้น จะมีใครติดโผเข้ามาบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย

5 อันดับนักเตะยิงเยอะสุดใน 100 นัดแรกของลิเวอร์พูล

   5. ไมเคิล โอเว่น ยิงรวมทั้งหมด 58 ประตู
   เด็กปั้นของสโมสรตัวจริงเสียงจริง ที่สร้างความฮือฮาด้วยการขึ้นสู่ชุดใหญ่หงส์แดงในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น จากแววของยอดดาวยิงที่มีความเร็วเป็นอาวุธเด็ดที่พร้อมฉีกแนวรับคู่แข่งกระจุยกระจาย จนได้ฉายา เบบี้โกล มาครอง แล้วเขายังรางวัลบัลลงดอร์สมัยอยู่กับทีมในปี 2001 ซึ่งการันตีฝีเท้าได้เป็นอย่างดี

   4. หลุยส์ ซัวเรซ ยิงรวมทั้งหมด 62 ประตู
   กองหน้าจอมถล่มประตูชาวอุรุกวัย ย้ายมาเพียงนัดแรกสามารถประเดิมประตูแรกให้ทีมได้ทันที จากนั้นยามลงสนามจะช่วยสร้างเกมรุกที่น่ากลัวได้อยู่เสมอ กลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่มีลีลาการถล่มประตูที่ครบเครื่องได้ทุกท่า รวมแล้วยิงไปถึง 62 ประตู ขึ้นทำเนียบ Top 5 ได้อย่างเยี่ยมยอด

   3. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ยิงรวมทั้งหมด 62 ประตู
   ขวัญใจแฟนหงส์แดงตลอดกาลก็ไม่ผิดนักสำหรับ เดอะ ก็อด ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กองหน้าที่แฟนๆชื่นชมสรรเสริญยกย่องไม่มีวันเปลี่ยงแปลงแม้ว่าจะเลิกเล่นไปแล้ว เพราะสมัยค้าแข้งอยู่ เขาคือสุดยอดกองหน้าที่ไว้ใจได้ ฝีเท้าฉกาจ ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ นี่คือกองหน้าที่สุดยอดที่สุดที่สโมสรเคยมีมาอีกคน

   2. เฟอร์นันโด ตอร์เรส ยิงรวมทั้งหมด 63 ประตู
หากพูดถึง ตอร์เรส แน่นอนว่าฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เกิดขึ้นในการเล่นกับลิเวอร์พูล แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่ปี แต่สิ่งที่เขาได้ทำมันออกมา คือความสุดยอดที่น่าประทับใจ เขายิงประตูได้อย่างเฉียบคม ลีลาการเล่นสุดพลิ้วไหว นี่คือดาวยิงอีกคนที่แฟนๆหงส์แดงต่างชื่นชม เขาคือกองหน้าที่ครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่งของสโมสร

1.   โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงรวมทั้งหมด 70 ประตู
แล้วอันดับ 1 ก็คือกองหน้าตัวหลักคนปัจจุบัน ซาลาห์ ที่ยกระดับจากนักเตะทั่วไป สู่นักเตะระดับโลกหลังย้ายมาอยู่หงส์แดง ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ สร้างผลงานสุดยอดพาทีมกวาดแชมป์มากมาย แล้ว 70 ประตูจาก 100 นัดแรกให้กับทีม ยากมากๆที่จะหาใครมาทำลายลงได้ นี่คือเครื่องจักรสังหารตัวจริงเลยทีเดียว
#3

คีเลียน เอ็มบัปเป้ นักเตะดาวรุ่งแห่งยุคนี้ ที่ถูกจับตามองมากที่สุด ด้วยฝีเท้าที่เก่งกาจของเขา ทำให้สโมสรหลายทีมต้องการอยากจะได้ตัว เป็นกองหน้าที่จบสกอร์ได้เด็ดฝาก และเป็นความหวังของทีมอีกด้วย ลองมาดูประวัติของเขากันบ้างดีกว่า

ชื่อเต็ม    คีเลียน อึมบาเป เอ็มบัปเป้
วันเกิด    20 ธันวาคม ค.ศ. 1998   
สถานที่เกิด ปารีส ฝรั่งเศส   
ส่วนสูง 1.78 ม. (5 ฟุต 10 นิ้ว)
ตำแหน่ง กองหน้าตัวเป้า


เส้นทางของการเป็นนักเตะ


เอ็มบัปเป้ เข้าสู่เส้นทางของนักฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยการเป็นนักฟุตบอลเยาวชนตั้งแต่ปี 2010 และเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเมื่อปี 2015 กับสโมสร โมนาโก โดยมีพ่อของเขา เป็นคนที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสอนเกี่ยวกับฟุตบอล คอยฝึกคอยดูแลจนกระทั่งกลายเป็นนักเตะที่โลกรู้จัก รวมไปถึงเรื่องส่วนตัวของลูกชาย พ่อก็เข้ามาจัดการให้เช่นกัน และขณะนั้นเอง ฟอร์มของ เอ็มบัปเป้ กลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลก และมีหลายทีมที่สนใจอยากจะดึงตัวเข้ามาร่วมด้วย และสุดท้ายก็กลายเป็นทีม ปารีส แช็ง แฌร์แม็ง ได้ไป ครั้งแรกเป็นเพียงแค่สัญญายืมตัวแค่ 1 ปีเท่านั้น และหลังจากนั้นก็กลายเป็นนักเตะของ เปเอชเช เต็มตัวจนถึงปัจจุบัน

สำหรับไอดอลที่เจ้าตัวชื่นชอบตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก ก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งเขาได้เรียนรู้การเป็นนักฟุตบอลที่ดี จากโรนัลโด้เยอะมาก และในห้องนอนส่วนตัวของ เอ็มบัปเป้ ก็เต็มไปด้วยรูปของโรนัลโด้เช่นกัน เจ้าตัวเคยบอกเอาไว้ในการสัมภาษณ์คือ ชีวิตของเขา เกิดมาเพื่อเล่นฟุตบอลอย่างแท้จริง เหมือนกับฟ้าให้เขาเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นในชีวิตของอึมบาเป จึงมีแต่เรื่องฟุตบอล ตั้งแต่ตื่นนอน ไปจนถึงเข้านอน ไม่ว่าเขาจะทำอะไรอยู่ก็ตาม จะต้องมีลูกฟุตบอลอยู่ใกล้ตัวเสมอ ราวกับว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว ทุกที่ในบ้าน คือสนามฟุตบอลของเขาทั้งหมด เขาเล่นแม้กระทั่งในห้องรับแขกหรือห้องนอนก็มี

เอ็มบัปเป้ นอกจากจะเป็นนักเตะที่ได้ค่าตัวสูงถึง 180 ล้านยูโร และเป็นผู้ที่ยิงประตูชัยให้กับทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2018 นอกจากจะมีฝีเท้าที่เก่งฉกาจแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่เขาทำเป็นประจำก็คือ การช่วยเหลือสังคม โดยการบริจาคเงินส่วนตัวให้กับมูลนิธิที่เขาได้ก่อตั้งขึ้นมาด้วยด้วยเงินมาถึง 5 แสนดอลลาร์ นอกจากจะเหลือเรื่องความเป็นอยู่ของเด็กในแอฟริกาและเด็กด้อยโอกาสในฝรั่งเศสแล้ว เจ้าตัวยังช่วยพัฒนาฟุตบอลของทวีปแอฟริกาอีกด้วย เหตุผลที่เขาต้องช่วยเหลือก็เพราะว่า เป็นบ้านเกิดของพ่อและแม่ของเขาเอง

รางวัลส่วนตัว

•   นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง 2 สมัย คือปี 2016-2018 และ 2017-2018
•   นักเตะยอดเยี่ยม ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก 1 ครั้งในปี 2016-2017
•   รางวัลโกลเดนบอล 1 ครั้งปี 2017
•   รางวัลลูกบอลทองคำปี 2017 (อันดับที่ 7)
•   รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมปีฟุตบอลโลกปี 2018
#4

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือที่คนไทยเรียกสั้นๆติดปากว่า แมนยู คือทีมหาชนที่มีแฟนบอลติดตามอยู่ทั่วโลกมากที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงในไทยเองก็เป็นทีมที่มีแฟนบอลมากที่สุดจากการสำเร็จครั้งล่าสุดเมื่อปี 2023 โดยประวัติศาสตร์ของทีมนั้นมีมาอย่างยาวนานในหลายๆเหตุการณ์ ที่กลายเป็นบทตำนานเล่าขานที่ทำให้สโมสรแห่งนี้พิเศษกว่าที่ไหนๆ อย่างยิ่งกับปี 1999 ปีที่ทีมคว้า 3 แชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ กับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อหลายครั้ง ที่ส่งให้ปีศาจแดงทำเรื่องที่ไม่มีทีมไหนในอังกฤษทำได้มาก่อนเป็นทีมแรก และบทความนี้จะพามาย้อนรำลึกถึงความหลังที่ยังติดอยู่ในใจของเด็กผีกัน

แชมป์แรก พรีเมียร์ลีก
แชมป์พรีเมียร์ลีกคือสิ่งที่กว่าจะได้มานั้นยากเย็นแสนเข็ญสุดๆ เมื่อทีมออกตัวไม่ดี 2 นัดแรกมีเพียง 2 คะแนนจากผลเสมอรวด แล้วพอถึงช่วงกลางฤดูกาลทีมยังคงฟอร์มไม่ดีผีเข้าผีออก กระทั่งเข้าสู่ช่วงปีใหม่ 20 นัดสุดท้าย แมนยูเครื่องติดสุดแรงไม่มีแพ้ ชนะมากถึง 14 คะแนน จนสามารถแซงเข้าป้ายเหนือคู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล ไปเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้นในเกมสุดท้ายนัดที่ 38 คว้าแชมป์อย่างเยี่ยมยอด


แชมป์ที่ 2 เอฟเอคัพ

แชมป์ที่ 2 คือรายการบอลถ้วยในประเทศ ซึ่งจะแข่งกันไปเป็นรอบๆ ผู้ชนะจะเข้าไปเรื่อยๆ ส่วนทีมแพ้จะต้องรอแก้ตัวใหม่ในปีหน้า แล้วนัดที่น่าจดจำมากที่สุดของแมนยู คือรอบรองชนะเลิศในการเจอกับคู่ปรับ อาร์เซ่น่อล โดยเกมนั้นทีมเสียทั้งใบแดง โดนจุดโทษช่วงท้ายเกม แต่ก็ยังสามารถยันอยู่ได้ กระทั่งเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษนาที 109 ไรอัน กิ๊กส์ ปีกซ้ายเท้าฉมังพาบอลตะลุยเดี่ยวตั้งแต่ครึ่งสนามเข้าไปยิงอย่างสุดสวย เป็นประตูชัยพาทีมคว้าแชมป์ในที่สุด พร้อมกับประตูนี้ถูกยกให้ได้ว่าเป็นลูกที่สวยที่สุดของเอฟเอคัพตลอดกาลเลยทีเดียว

แชมป์ที่ 3 ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก คือการรวมเอาสุดยอดทีมทั่วยุโรปมาห้ำหั่นหาทีมที่สุดยอดที่สุดในแต่ละปี แล้วความโหดของแมนยูเริ่มตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม เมื่ออยู่รวมกับ บาเยิร์น มิวนิค กับ บาร์เซโลน่า แต่ว่าก็พามาได้ด้วยการเข้าเป็นอันดับ 2 กระทั่งฝ่าฟันสุดยอดทีมมากมายจนทะลุถึงรอบชิงได้ และนี่คือแมตย์หยุดโลกที่กลายเป็นเกมสุดยอดของโลกในภายหลัง เพราะเมื่อจบ 90 นาทีไปแล้ว แมนยูตามหลังบาเยิร์นอยู่ 0-1 แต่ทว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที แมนยูพลิกมายิงแซงได้ 2-1 อย่างเหลือเชื่อ พลิกกลับมาคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ เป็นสุดยอดเกมของฟุตบอลอีกนัดที่ดีที่สุดตลอดกาล
#5


เมืองหลวงของประเทศไทย กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่เจริญมากที่สุดในประเทศด้วยความก้าวล้ำในทุกด้านที่ทันสมัย จนทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดของโลกในปี 2023 จากการสำรวจล่าสุด ซึ่งกรุงเทพไม่ได้มีแหล่งสถานที่เที่ยวแค่เรื่องทันสมัยเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายแห่งหลายที่ที่น่าสนใจ ที่จะมาแนะนำให้ต้องไปกันให้ได้ในวันนี้ คัดมาเน้นๆแน่นๆ 5 สถานที่ด้วยกัน พร้อมแล้วก็ไปดูกันต่อได้เลยว่ามีที่แห่งไหนบ้าง

5 ที่เที่ยวกรุงเทพ เที่ยวเมื่อไหร่สนุกเมื่อนั้น

1.เดินสกายวอร์ค ณ ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร
สถานที่แรกที่อยากแนะนำที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยมาคือที่นี่ เพราะคือชุดวิวกรุงเทพที่สูงมากๆถึง 314 เมตร!!! เมื่อขึ้นมาแล้วจะมองเห็นกรุงเทพแบบ 360 องศา ที่สวยสดงดงามอย่างเกินคาดมากๆ ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะสวยได้มากขนาดนี้ แล้วจุดไฮไลท์อย่างการเดินสกายวอร์คกับแผ่นกระจกใสโปร่ง มองเห็นด้านล่างได้อย่างชัดแจ๋ว เล่นเอาเสียวไส้ไม่น้อยเลยทีเดียว

2.ยิงปืนเลเซอร์สุดเดือดที่ Play Square Laser Tag
กิจกรรมที่เหมาะกับชาวแก็งแบบสุดๆ เมื่อจะเป็นการแข่งขันแบบทีมด้วยปืนเลเซอร์สุดทันสมัย โดยสนามแข่งจะมีขนาดใหญ่มากๆ ออกแบบมาอย่างซับซ้อนวกวน ที่สร้างทั้งความตื่นเต้นและความสนุกได้เต็มพิกัด หากใครกำลังมองหากิจกรรมสุดท้าทายสุดมันส์ ต้องไม่พลาดที่นี่ Play Square Laser Tag ซึ่งตั้งอยู่ที่ Central Festival Eastville

3.ซิ่งรถโกคาร์ท Easy Kart ณ RCA
กิจกรรมสายความเร็ว ที่จะออกซิ่งอย่างสนุกเพลิดเพลิน โดยสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ ณ RCA เป็นการขับรถโกคาร์ทในร่มที่ทั้งมันส์ ทั้งเดือด ที่สามารถเล่นได้ทุกวัยตั้งแต่เด็ก 7 ขวบ จนถึงระดับผู้ใหญ่ ที่มีระบบความปลอดภัยระดับสูง ที่มั่นใจได้เลยว่าจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน ใครที่ชื่นชอบการขับรถแข่ง ที่นี่ย่อมไม่ควรพลาด

4.นั่งรถบัส 2 ชั้นชื่นชมกรุงเทพสุดสบาย
กรุงเทพมีรถ 2 ชั้นที่สามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญๆได้ครบจบในรอบเดียว เป็นบริการใหม่ที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีอยู่ในบ้านเรา โดยสามารถนั่งชมเมืองได้อย่างเพลิดเพลินสบายๆ แล้วที่สำคัญของเมืองไปครบไม่มีพลาดทุกจุด

5.หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
หอศิลปะแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพ สามารถเดินทางไปอย่างง่ายดาย ที่สำคัญไม่มีค่าเข้าอีกด้วย เข้าชมฟรีตลอดงาน ภายในหอแห่งนี้ได้รวบรวมเอางานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกมาให้เสพกันอย่างจุใจ ทั้งหอยังมีขนาดใหญ่สามารถเดินชมได้ตลอดทั้งวัน แล้วแต่ละเดือนจะมีการเปลี่ยนงานศิลปะที่สดใหม่อยู่เสมอๆอีกต่างหาก
#6

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เกาะเสม็ด จ.ระยอง

เกาะเสม็ด เป็นที่เที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดระยอง และเชื่อว่าทุกคนรู้จักกันอยู่แล้ว ในชื่อ เกาะแก้วพิสดาร เพราะว่าอยู่ในตำราเรียนภาษาไทยเรื่อง พระอภัยมณี ซึ่งเราได้เรียนกันมาตั้งแต่เด็ก จะว่าไปแล้วความงามของเกาะเสม็ด ก็ไม่ได้ต่างจากชื่อเสียงว่า เกาะแก้วพิสดาร เลย เพราะความสวยงามของเกาะ ชายหาด และน้ำที่ใสสะอาด จนทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวที่นี่ มีความประทับใจเป็นพิเศษ และอยากจะกลับมาเที่ยวอีกสักครั้ง เป็นเกาะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่มากกว่า 3 พันไร่

สำหรับเกาะเสม็ด ห่างจากกรุงเทพเพียงแค่ 200 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งไม่ไกลเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวแบบเช้าไป เย็นกลับได้เลย ที่นี่มีไฮไลต์ที่น่าสนใจเยอะทีเดียว ที่จะทำให้คุณสนุกไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของเกาะก็ดี น้ำที่ใสสะอาด และหาดทรายขาดที่เหมาะกับการเดินเล่น และเล่นน้ำ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำให้ได้สนุกอีกเยอะเลย ทั้งการขี่เจ็ตสกี ว่ายน้ำ ดำน้ำ รวมถึงการเหมาเรือเพื่อตกหมึกในตอนกลางคืน ก็สนุกไม่แพ้กัน

ที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะเสม็ด
ด้วยพื้นที่ของเกาะที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ที่เที่ยวบนเกาะมีค่อนข้างเยอะ โดยหาดทั้งหมดบนเกาะเสม็ด มีมากถึง 16 อ่าว แต่ละอ่าวก็จะมีความงาม มีความพิเศษที่แตกต่างกัน แต่อ่าวที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ
• แหลมเรือแตก สถานที่ที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตก
• อ่าวไผ่ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ผับ และมีจุดสำหรับนักชมวิว นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี่เยอะเป็นอันดับต้นๆ
• หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่มีความยาวมากที่สุด เกือบ 1 กิโลเมตร มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ มาเล่น และทำกิจกรรมบนหาด และในน้ำ

การเดินทาง
ท่านสามารถเดินทางมายังเกาะเสม็ดได้หลายวิธี ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์ และรถโดยสาร โดยไปลงที่บ้านเพ จากนั้นก็นั่งเรือที่เพ ไปยังเกาะ มีทั้งเรือสปีดโบ้ท และเรือโดยสารทั่วไป ใช้เวลาเพียงแค่ 30-50 นาทีเท่านั้น ก็จะถึงเกาะ

ค่าบริการในการเข้าชม
• นักท่องเที่ยวชาวไทยผู้ใหญ่ 40 บาท
• เด็ก 20 บาท
• นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท
• เด็ก 100 บาท

ที่พักและอาหาร
บนเกาะมีบ้านพัก บังกะโล และรีสอร์ทมากมาย ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ท่านสามารถจองที่พัก หรือติดต่อล่วงหน้าก่อนได้เลย บางเจ้าจะมีเรือรับส่งนักท่องเที่ยวอีกด้วย ถือว่าสะดวกมากๆ อาหารการกินมีทั้งของที่พัก รีสอร์ท มีร้านสะดวกซื้อ เอทีเอ็ม รวมถึงที่ซักผ้า

สถานที่ตั้งของ เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ด อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร บ้านเพ ตำบลบ้านเพ อำเภอเมืองระยอง
#7
อย่างเอา  8)
#8

Kawasaki W250 นั้นเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล "W" ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์เรโทรแท้ๆ ที่ได้รับการดีไซน์เเละผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายในตลาดเอเซีย โดยรูปลักษณ์ที่มีความคลาสสิคลงตัวกับสมรรถนะที่ร้อนเเรง ทำให้กลายเป็นอีกรุ่นที่มีเสน่ห์เหมาะกับการขับขี่

มิติตัวรถของ Kawasaki W250 นั้นน่าสนใจไม่น้อย เมื่อมาพร้อมกับความกว้างอยู่ที่ 755 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,075 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,055 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,410 มิลลิเมตร ส่วนความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 170 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะนั่งที่ 735 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 13 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 162 กิโลกรัม

Kawasaki W250 มาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์เเบบเครื่องยนต์สูบคู่แนวดิ่งระบายความร้อนด้วยอากาศ โดยมีขุมกำลังขนาด 250 ซีซี  เเบบ Air-cooled, 4-stroke Single มีระบบวาล์วเเบบ SOHC, 2 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 66.0 x 73.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 9.0 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา โดยมีระบบเกียร์เป็นเเบบ 5 สปีด, ย้อนกลับ โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ ดิจิตอล ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection (φ32 x 1) โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า

Kawasaki W250 มาพร้อมกับเฟรมเเบบท่อคู่ DOUBLE-CRADLE FRAME ส่วนทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็น φ39 mm telescopic fork ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Swingarm, dual shock absorbers with spring preload adjustability ระบบเบรคด้านหน้าจะเป็นเเบบ Single φ300 mm disc. Caliper 2-piston ระบบเบรคด้านหลังจะเป็นเเบบ Drum, φ160 mm โดยที่ยางหน้ามีขนาด 90/90-18M/C 51P ส่วนยางหลังมีขนาด 110/90-17M/C 60P หน้าจอเเสดงผลการขับขี่เป็นลักษณะของแผงมาตรวัดแบบดั้งเดิมมาพร้อมมาตรวัดความเร็ว และมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ แบบแยกอิสระต่อกันตามสไตล์คลาสสิค นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชั่น ที่แสดงผลทั้งมาตรบันทึกระยะทาง มาตรวัดระยะทาง และนาฬิกา ส่วนเบาะนั่งรูปทรงยาวหนานุ่มพร้อมลวดลายตัดขวางมีพื้นที่มากพอสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร วัสดุยูรีเทนที่ด้านหน้าเบาะนั่งได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงรองรับผู้ขับขี่เพื่อให้สามารถนำเท้าแตะพื้นได้ง่าย โคมไฟหน้าชุบโครเมี่ยมคุณภาพสูงพร้อมตัวเรือนที่มาในสีเดียวกับถังน้ำมันเชื้อเพลิงและฝาครอบข้าง ส่วนทางด้านของตัวบอดี้นั้นมี 3 สีด้วยกันทั้งสี METALLIC SPARK BLACK/BROWN (SE) (2019), สี PEARL CRYSTAL WHITE (2019) เเละสี METALLIC SPARK BLACK (2018)

ราคาขายของ Kawasaki W250 นั้นเคาะราคาออกมาที่ 230,000 บาท สำหรับรุ่นที่มีตัวถังสี METALLIC SPARK BLACK/BROWN (SE) (2019) เเละสำหรับตัวถังที่มีสี PEARL CRYSTAL WHITE (2019) เเละสี METALLIC SPARK BLACK (2018) มีราคาขายที่  220,000 บาท
#9

Kawasaki Ninja 1000 เป็นบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่อีกรุ่นของคาวาซากิ ที่ตัวรถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างรวดเร็วในขณะที่ตัวรถสามารถขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ด้วยสมรรถนะการขับเคลื่อนทั้งทางตรงและในโค้งที่มั่นคง ผู้ขับขี่จึงเพลิดเพลินและสนุกไปกับการขับขี่ได้มากขึ้นและนานขึ้น

ทางด้านมิติตัวรถของ Kawasaki Ninja 1000 นั้นนับว่ามีขนาดใหญ่ไม่เบา โดยมันมาพร้อมกับ ความกว้างอยู่ที่ 790 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,100 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,185 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,440 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 815 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 19 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 235 กิโลกรัม ถือว่าเป็นมิติตัวรถที่มีขนาดใหญ่อยู่ไม่น้อย

Kawasaki Ninja 1000 มีสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาดใหญ่เลยทีเดียว โดยมันพกพาขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 1,043 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 16 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 77.0 x 56.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.8 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ  Wet multi-disc, manual โดยมีระบบส่งกำลัง 6-speed, return shift โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Digital ส่วนระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection: ø38 mm x 4 with oval sub-throttles โดยมีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric เป็นรถอีกรุ่นที่มีสมรรภนะสูงน่าสนใจ

โดยที่ Kawasaki Ninja 1000 มาพร้อมกับเฟรมเเบบอลูมิเนียม TWIN-SPAR / สวิงอาร์มอลูมิเนียม โดยเชื่อมต่อเป็นแนวตรงจากคอไปจนถึงแกนสวิงอาร์ม ทำให้จุดศูนย์ถ่วงรถมีความสมดุล มั่นใจในการเข้าโค้งแคบๆ และควบคุมได้โดยไม่เสียอาการ ทางด้านระบบกันสะเทือนหน้านั้นเป็นเเบบ ø41 mm inverted fork with compression and rebounddamping and spring preload adjustability ส่วนระบบกันสะเทือนหลังนั้นจะเป็นเเบบ orizontal Back-link, gas-charged rear shock with rebound damping and spring preload adjustability โดยระบบห้ามล้อหน้ามาพร้อมระบบ Dual semi-floating ø300 mm petal discs  ส่วนระบบห้ามล้อหลังนั้นจะเป็นเเบบ Dual radial-mount, monobloc, opposed 4-piston  โดยมีขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W) ส่วนขนาดยางหลัง 190/50ZR17M/C (73W) หน้าจอเเสดงผลเป็นรูปเเบบใหม่ที่ขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ all-digital TFT colour บรรจุระบบ KAWASAKI TRACTION CONTROL ทำงานได้ถึง 3 โหมด โคมไฟหน้ามีความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวสวยงาม รวมไปถึงไฟเลี้ยวทั้งสองข้างและไฟท้าย โดยทำงานด้วยระบบ LED ตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้านหน้ารถปราดเปรียวชวนให้นึกถึงซูเปอร์สปอร์ต Ninja ตัวบอดี้มี 3 สีให้เลือกกันทั้งสี EMERALD BLAZED GREEN / METALLIC MATTE GRAPHITE GRAY (2019) หรือจะเป็นสี CANDY LIME GREEN/METALLIC CARBON GRAY (2017) รวมไปถึงสี METALLIC SPARK BLACK / METALLIC GRAPHITE GRAY (2018)

ส่วนราคาของ Kawasaki Ninja 1000 นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 664,000 บาท นับว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเมื่อเทียบกับสเปกของตัวรถเเล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว
#10

Ducati XDiavel S นับว่าเป็นอีกหนึ่งในรุ่นที่ร้อนเเรงที่สุดของดูคาติเลยก็ว่าได้ เพราะสมรรถนะที่ทรงพลังเเละรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว เร้าใจในทุกสัมผัสกับการขับขี่

มิติตัวรถของ Ducati XDiavel S มีความลงตัวเป็นอย่างยิ่งด้วยน้ำหนักรถเปล่าที่ 221 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 247 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 755 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,615 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 30 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 18 ลิตร สามารถโดยสารได้ 2 คน

ในส่วนของสมรรถนะเครื่องยนต์ของ Ducati XDiavel S ก็ดุดันร้อนเเรงด้วยเครื่องยนต์รุ่น Testastretta DVT 1262, V2 - 90°, 4 valves per cylinder, Desmodromic Variable Timing, Dual Spark, liquid cooled ที่มีขุมกำลังขนาด 1,262 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 106 x 71.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่  13.0 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 160 เเรงม้าที่ 9,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 127 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection system, Øeq 56 mm elliptical throttle bodies with Ride-by-Wire system ส่วนระบบไอเสียจะเป็นเเบบ Stainless steel muffler, catalytic converter and 2 lambda probes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed ในขณะที่ Primary Drive เป็นเเบบ Straight cut gears, Ratio 1.84:1 มีอัตราที่ 1=37/15, 2=30/17, 3=27/20, 4=24/22, 5=23/24, 6=22/25 ส่วน Final Drive นั้นเป็นเเบบ Belt, front sprocket z28, rear sprocket z80 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Slipper and self-servo wet multiplate clutch with hydraulic control ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่สมรรถนะสูง

เฟรมของ Ducati XDiavel S จะเป็นเเบบ Tubular steel trellis frame ซึ่งในส่วนของระบบกันสะเทือนที่ทำงานร่วมกันจะมีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเเบบ Adjustable Ø 50 mm usd fork with DLC treatment ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังจะเป็นเเบบ Preload and rebound adjustable monoshock, remote reservoir, single-sided cast/trellis frame swingarm มาที่ระบบเบรก ด้านหน้าจะเป็นเเบบ 2 x Ø 320 mm semifloating discs, radial mounted Brembo monobloc 4-piston M50 callipers, PR16/19 radial master cylinder, Cornering ABS ส่วนด้านหลังเป็นเเบบ Ø 265 mm disc, Brembo 2-piston floating calliper, Cornering ABS ทางด้านของล้อนั้น ล้อหน้าจะเป็นเเบบ Light alloy, forged and machined, 3.5"x17" ในขณะที่ล้อหลังเป็นเเบบ Light alloy, forged and machined, 8.0" x 17" ส่วนยางนั้น ยางหน้าเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 120/70 ZR17 ยางหลังจะเป็นเเบบ Pirelli Diablo Rosso III 240/45 ZR17หน้าจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 3.5 นิ้วเเบบ TFT colour display and dedicated warning light display ระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า-ท้าย เเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด เบาะหนังตัวบอดี้มีสีมาให้เพียงสีเดียวคือสีดำ Thrilling Black ที่ดุดันเป็นอย่างยิ่ง

สนราคาของ Ducati XDiavel S นั้นเคาะออกมาที่ 929,000 ถึง 1,099,000 บาท